
จากภาพที่เห็นในเกมส์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก วีคสัปดาห์ที่ 9 ฤดูกาล 2021 – 2022 วันแดงเดือด ลิเวอร์พูล ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในมหกรรมลูกหนังเบอร์ 1 ของประเทศอังกฤษ ทุกคนคงพอจะรู้กันแล้วว่าวันนั้นมันเป็นทั้งวันที่สุขที่สุดของสาวกเดอะคล็อปป์ หงส์แดง ลิเวอร์พูล และเป็นวันที่เศร้าสุดจนถึงกับต้องหลั่งน้ำตาของสาวกผีปีศาจแดงแมนฯยูไนเต็ดที่เป็นเจ้าบ้านถูกอาคันตุกะผู้มาเยือนถล่มเอาซะยับ 0 – 5 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในประวัติศาตร์ของทั้ง 2 ทีมที่เจอกัน สโมสรลิเวอร์พูล และ สโมสรแมนฯยูไนเต็ด เป็นทีมฟุตบอลแรกๆที่เวลาคนรู้จักกีฬาฟุตบอลจะเลือกเชียร์ทำให้ทั้งคู่มีเหล่าแฟนบอลสาวกติดตามอยู่มากมายมหาศาล ในอดีตทีมแมนฯยูไนเต็ดมีความยิ่งใหญ่กว่านี้มาก เป็นแชมป์ถ้วยฟุตบอลใหญ่ทุกรายการของประเทศเริ่มตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก 20 ครั้ง เอฟเอคัพ 12 ครั้ง แชมป์ยุโรปยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกก็ 3 ครั้ง แชมป์สโมสรโลก 1 ครั้งแต่ทำไมในวันนั้นที่ลงนามกลับมีผลงานที่แตกต่างจากความยิ่งใหญ่ที่เคยได้ยินมา จะว่านักเตะไม่เก่ง หรือว่าทีมมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือก็ไม่ใช่ ปัญหาจากทีมภายในหรือบอร์ดบริหาร เรื่องต่างๆที่ทำให้แมนฯยูไนเต็ดตกต่ำได้ขนาดนี้เป็นเพราะอะไร ลองมาหาสาเหตุ วิเคราะห์ และดูว่าแนวทางไหนที่จะพอช่วยแก้ไขให้ทีมสมโมสรที่หลายคนรักและบูชาได้กลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเช่นในอดีต
สาเหตุปัญหาในความพ่ายแพ้จนมามาถึงยุคถดถอยของทีมสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด

- ขาดโค้ชกุนซือที่ดี
ในตอนนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมแมนฯยูก็คือ โอลเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตนักเตะในสโมสรที่ผันตัวเดินทางสายโค้ชทีมฟุตบอลหลังประกาศแขวนสตั๊ดท์ปี 2007 เขาเข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก โชเซ มูริญโญ ปี 2019ด้วยความที่ตัวเขาเองอ่อนประสบการณ์ด้านนี้แต่ได้คนหนุนหลังที่ดีก็คือ “เฟอร์กี้” เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมในตำนานตลอดกาลของแมนฯยูเป็นคนเสนอชื่อ ในช่วงเวลาที่โซลชาคุมทีมแมนฯยูจะใช้แต่นักเตะผู้เล่นตำแหน่งคนเดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแผน เปลี่ยนรูปแบบใหม่ วางตำแหน่งนักเตะไม่เป็น แทคติกต่างๆก็ไม่มีใช้ไม่แม่น ไม่ได้ผล ได้เป็นกุนซือทีมระดับโลกก็เพราะเส้นสาย

- นักเตะในทีมไม่เป็นหนึ่งเดียว
ดูจากรายชื่อนักเตะแต่ละคนในวันนั้นที่ลงสนามมีแต่นักเตะชื่อดังระดับเวิลด์คลาสทั้งนั้น คริสเตียโน โรนัลโด, บรูโน แฟร์นันด์ส, พอล ป็อกบา ดาบิด เด เคอา และคนอื่นๆอยู่ในทีมนัดนั้น ดูแล้วเหมือนจะเป็นนทีมอเวนเจอร์ซะมากกว่าอีกที่ลงสนามมา แต่พอเริ่มเกมส์ป่านกหวีด ผู้เล่นแต่ละคนกลับไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อทีม ไม่มีความสดคล้องประสานงานต่อกัน ยิ่งพอจบเกมส์การแข่งขันในห้องแต่งตัวของนักกีฬาเกิดคารมปากเสียงทะเลาะกันเองอย่างหน้าอับอาย

- แดนหลังที่ยังรั่วไม่หยุด
ทีมแมนฯยูไนเต็ดมีปัญหาที่ผู้เล่นแดนหลังอย่างมากมาหลายครั้ง แต่รอบนี้หนักสุดเรียกว่าขาดรุดรุ่ย โซลชากุนซือของทีมมักจะใช้ผู้เล่นแดนกลางหนุนแดนหน้าและไม่ค่อยที่จะกลับลงมาตำแหน่งของตัวเองและจ่ายบอลพลาด เสียลูกในแดนนี้กลับมาไม่ทัน เกมส์รับที่เหลือก็ไม่สามารถต้านเกมส์รุกจากทีมอื่นได้จนต้องเสียประตู และเลือกคนเจ็บที่ยังใช้งานลงสนามได้ไม่เต็มที่อย่างเฮนรี่ แม็คไกว์ก็ยิ่งแย่เข้าไปอีกหนักกว่าเดิม
ด้วยความที่เป็นทีมสโมสรฟุตบอลที่มีคนรักทั่วโลก ความกดดันและความคาดหวังก็มีมากตามไปด้วย แต่เชื่อว่าถึงแม้รอบนี้จะแพ้และน่าอับอายมากแค่ไหนแต่ศรัทธาชองสาวกแฟนบอลที่มีต่อทีมแมนฯยูไนเต็ดจะไม่มีทางหายไปง่ายๆแน่นอน ทุกคนเฝ้ารอที่ทีมสโมสรของเราจะกลับมาอีกครั้ง นับประสาอะไรกะแมนฯยู ลิเวอร์พูลรอเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกกว่าจะได้ก็ 30 ปีเชียว