
แข่งขันมาจนถึงสัปดาห์ที่ 7 พรีเมียร์ลีก ถ้วยรางวัลฟุตบอลลำดับที่ 1 ของประเทศอังกฤษ ทีมีผู้คนรู้จักที่สุดในโลก ทีมที่นมาเป็นแชป์ตมตารางคะแนนก็คือ “สิงโตน้ำเงิน” สโมสรเชลซี มีทั้งหมด 16 แต้ม แข่ง 7 นัดชนะ 5 นัด เสมอ 1 แพ้ 1 ตามมาด้วยลำดับที่ 2 และ 3 ที่พึ่งแบ่งกันไปคนละแต้มคือ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯซิตี้ ที่เตะกันดุเดือด เชียร์จนหืดขึ้นคอ ปิดท้ายที่ 4 คือปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
สำหรับสัปดาห์ที่ 7 มีคู่บอลใน พรีเมียร์ลีก ถ้วยรางวัลฟุตบอลลำดับที่ 1 ที่หลังจากรัฐบาลต้องให้นักเตะเร่งฉีดวัคซีน ลงสนามแข่งกันทั้งหมด 5 คู่ 10 ทีม นัดใหญ่บิ๊กแมตช์ในรอบสัปดาห์นี้ก็มี ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนฯซิตี้ ที่ผลงานสูสีแล้วยังมาเป็นที่ 2 และ 3 ของตารงคะแนนอีกด้วย ใครได้ 3 แต้มก็ขึ้นเป็นผู้นำ แต่หลังจบเกมส์ ทำได้แค่เสมอ 2 – 2 แบ่งกันคนละแต้ม ต่อมาเป็นผู้นำจ่าผู้ง “สิงโตน้ำเงิน” เชลซี เอาชนะเซาท์แธมป์ตันไป 3 – 1 ด้วยชั้นเชิงที่มันต่างกัน และเบรนท์ฟอร์ดน้องใหม่พรีเมียร์ลีกอังกฤษบุกเชือด”ขุนค้อน” เวสต์แฮม คารังดก็บ 3 แต้มจบสกอร์ 1 – 2 ประตู

คู่ของวูล์ฟแฮมป์ตัน “หมาป่า” กับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล พระเอกต้องยกให้กองหน้าชาวเกาหลีใต้ที่เป็นคนทำ 2 ประตูจากลูกแอสซิสโดย ราอูล ฮิเมเนซที่เปิดมาให้กับ ฮวาง ฮี ซาน ทำประตูในพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่ 7 “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส เอาชนะ แอสนตันวิลลา 2-1 คริสตัล พาเลซกับ เลสเตอร์ซิตี้ก็เสมอกัน 2 – 2 ปิดท้ายด้วยเบริน์ลีย์ กับ นอริชซิตี้ ที่พึ่งขยับขึ้นมาเล่นดิวิชั่น 1 พรีเมียร์ลีกอังกฤษอีกครั้งก็เสมอกัน 0 – 0 อาร์เซน่อล “ปืนใหญ่” บุกไปเจ๊าเจาะเจ้าบ้านไม่เข้า “นกนางนวล” ไบร์ทตัน ปิดเกมส์สกอร์ 0 – 0 นัดสัปดาห์หน้าที่ 8 ศึกพรีเมียร์ลีก คู่ที่น่าสนใจติดตามเป็นบิ๊กแมตช์คือ เลสเตอร์ เจอกับ แมนฯยู ลิเวอร์พูล ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ที่พึ่งออกมาพูดเรื่องการฉีดวัคซีน ปะทะ วัตฟอร์ด แมนฯซิตี้กับเบรินลีย์ แต่ที่แน่ๆแชมป์กลุ่มเชลซีเจอกับเบรนท์ฟอร์ด น้องใหม่ไฟแรงเกมส์อาจจะพลิกก็ได้ แถมนักเตะแต่ละทีมสโมสรก็ต้องไปรับใช้ทีมชาติของตัวเองในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ แล้วถึงจะกลับมาแข่งขันกันต่อ